LLM คืออะไร?
LLM หรือ Large Language Model คือ ปัญญาประดิษฐ์ที่ถูกออกแบบมาให้เข้าใจ ประมวลผล และสร้างข้อความในภาษาที่ใกล้เคียงกับมนุษย์ โดยใช้เทคนิค Machine Learning และ Deep Learning ผ่านการเทรนข้อมูลจากข้อความมหาศาล ไม่ว่าจะเป็นหนังสือ เว็บไซต์ หรือบทสนทนาบนเว็บบอร์ด ทำให้ LLM มีความสามารถในการพยายามเข้าใจความหมายและบริบทของภาษาอย่างลึกซึ้ง จนสามารถสร้างสรรค์เนื้อหาได้เสมือนมนุษย์จริง ๆ โดยระบบ AI หรือ LLM ที่เรารู้จักกันดี เช่น ChatGPT, Gemini และ Perplexity
จุดเด่นของ LLM
เหตุผลที่ทำให้ LLM ถูกมองว่าจะเข้ามาพลิกโฉมการทำ SEO หรือเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ใช้นั้นมาจากจุดเด่นต่อไปนี้
- เข้าใจเจตนาของผู้ใช้ได้อย่างลึกซึ้ง
- สร้างบทความ SEO คุณภาพสูง ได้ภายในไม่กี่นาที
- สรุป วิเคราะห์ และแปลงข้อมูลซับซ้อนให้เข้าใจง่าย
- เรียนรู้และปรับสไตล์ได้ตาม Tone of Voice ของแบรนด์
ความเปลี่ยนแปลงของ SERP ในยุค AI
เมื่อ Large Language Model เข้ามามีบทบาทต่อการใช้ชีวิตมากขึ้น ความเปลี่ยนแปลงของ SERP ในยุคของ AI ก็เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นด้วย โดยเฉพาะในเรื่องต่อไปนี้
- เครื่องมือค้นหายุคใหม่ เช่น Google, Bing และ Safari เริ่มนำ LLM เข้าไปรวมเป็นฟีเจอร์สร้างผลลัพธ์การค้นหาแบบใหม่ ไม่ใช่แค่การแสดงผลตามคีย์เวิร์ดอีกต่อไป
- ผลลัพธ์ที่ได้จาก LLM จะเน้น คำตอบ และสรุปข้อมูล ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากขึ้น ทำให้จำนวนคลิกเข้าเว็บไซต์ลดลง แม้เว็บไซต์จะติดอันดับ 1 ในการค้นหาแบบ Organic ก็ตาม
- ผู้ใช้ส่วนใหญ่เริ่มให้ความสนใจในโฆษณาตรงจากแบรนด์ลดลง แต่เริ่มให้ความสำคัญกับข้อมูลที่ AI นำเสนอในหน้าผลลัพธ์การค้นหาแทน
ด้วยความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้เอง ทำให้เทคนิคการทำ SEO แบบเดิม ๆ อาจไม่ได้ผลลัพธ์ที่ดีอีกต่อไป และนักการตลาดต้องเริ่มเปลี่ยนวิธีการทำ SEO เพื่อให้เข้ากับยุค LLM แทน
อ่านบทความที่น่าสนใจ: Backlink SEO 2025 ยังเวิร์กไหม? ส่องอนาคต Link Building ยุคใหม่

เปรียบเทียบการทำ SEO แบบเดิม vs การทำ SEO ยุค LLM
เพื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจาก LLM ต่อไปนี้คือตารางเปรียบเทียบการทำ SEO แบบเก่า และการทำ SEO ในยุค LLM
ส่วนที่แตกต่าง | SEO แบบเดิม | SEO แบบ LLM |
เป้าหมาย | อันดับสูงสุดบน SERP | ถูก AI เลือกไปแสดงผล |
คอนเทนต์ | บทความยาว ครอบคลุมเนื้อหา | กระชับ ตรงประเด็น ตอบคำถาม |
การวิเคราะห์ | คำสำคัญ หรือคีย์เวิร์ดที่เฉพาะเจาะจง | หัวข้อและบริบทที่ครอบคลุม |
วัดผล | อันดับ ปริมาณการเข้าชมและยอดคลิก | แบรนด์ถูก AI แนะนำ |
เทคนิค | Backlink คุณภาพ | ความถี่ของข้อมูล |
ถ้าคุณกำลังมองหาแนวทางใหม่ในการทำ SEO ให้เหมาะกับยุค LLMทีมงาน Blupaper พร้อมช่วยคุณวางแผน
3 สิ่งสำคัญในการทำ SEO ยุค Large Language Model
แม้ว่าจะต้องเปลี่ยนแปลงวิธีการไปบ้าง แต่สิ่งสำคัญของการทำให้แบรนด์ของคุณถูกแนะนำในยุค LLM ก็คือการทำ SEO ที่เหมาะสม โดย 3 สิ่งต่อไปนี้จะช่วยทำ SEO ให้ถูกอ้างอิงโดย AI มากขึ้น
1. ทำคอนเทนต์ตามหลัก E-E-A-T
จริงอยู่ที่หลายคนอาจใช้ AI ช่วยเขียนบทความ SEO ได้ แต่สิ่งที่จะทำให้คอนเทนต์ของคุณแตกต่างและโดดเด่นกว่าในยุค LLM คือการใช้หลัก E-E-A-T หรือ Experience, Expertise, Authoritativeness และ Trustworthiness การทำคอนเทนต์ด้วยหลักการนี้จะทำให้ LLM มองว่ามีความน่าเชื่อถือและถูกนำไปอ้างอิงเป็นคำตอบได้
เคล็ดลับสำคัญคือแทนที่จะเขียนบทความเพื่อบอกว่าแบรนด์ของคุณมีจุดเด่นด้านไหน ก็ให้เพิ่มส่วนที่เป็นประสบการณ์และผลงานที่ผ่านมาของแบรนด์ลงไปในเนื้อหาด้วย
2. เลือกใช้หัวข้อแบบ ตอบคำถาม
การแสดงผลลัพธ์ของ LLM คือ การให้ข้อมูลที่สามารถตอบข้อสงสัยหรือแนะนำข้อมูลให้กับผู้ใช้ได้ทันที ดังนั้นการทำ SEO ในยุค LLM จึงต้องเน้นให้ความสำคัญกับหัวข้อและข้อมูลที่ครอบคลุม ตอบคำถามในเรื่องนั้น ๆ ได้จริง เพื่อให้ AI มองว่าคุณคือผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นจริง
ตัวอย่างเช่น คุณต้องการขายบัตรเครดิต สิ่งที่ผู้ใช้อยากรู้อาจไม่ใช่ “บัตรเครดิต คืออะไร?” แต่สิ่งที่จะตอบคำถามในเรื่องที่คนอยากรู้ได้มากกว่าอาจเป็น “อาชีพอิสระ เลือกบัตรเครดิตแบบไหนดี?”
3. สร้างความถี่ของข้อมูล
อย่างที่ได้บอกไปว่าการเก็บข้อมูลของ LLM คือมาจากทั้งเว็บไซต์ เว็บบอร์ด และบทความ ที่อยู่บนโลกออนไลน์ ดังนั้นการสร้างความถี่ของข้อมูลที่เกี่ยวกับ แบรนด์ บริการหรือสินค้า ของคุณให้ปรากฏบนเว็บไซต์ข่าว โซเชียลมีเดีย บทความในบล็อก และเว็บบอร์ด ยิ่งมีความถี่มากก็ยิ่งมีโอกาสที่แบรนด์ของคุณจะถูกนำไปอ้างอิงหรือใช้เป็นคำแนะนำบน LLM ก็เป็นไปได้มากขึ้น
SEO ยุค LLM ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องตามเกมให้ทัน
การมาของ LLM คืออีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่สำคัญของ Search Engine ที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้งานของผู้คน สิ่งสำคัญของการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ อาจไม่ใช่การใช้ LLM ทำ SEO หรือใช้ AI ช่วยเขียนบทความ SEO แต่มันคือการปรับตัวและตามเกมให้ทัน เพื่อไม่ให้ธุรกิจของคุณถูกทิ้งไว้ข้างหลัง เพราะสุดท้ายแล้วการทำงานร่วมกันระหว่าง มนุษย์ และ AI อย่างเข้าใจ จะช่วยให้คุณไปต่อ และสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่งในระยะยาว
หากคุณต้องการสร้างกลยุทธ์ SEO เพื่อให้พร้อมสำหรับยุค LLM หรือ AI และไม่พลาดโอกาสเอาชนะคู่แข่ง สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญจาก Blupaper ได้ที่ ติดต่อเรา หรือโทร 094-454-2495
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำ SEO ในยุค LLM (FAQ)
Q: การวัดผล SEO เพื่อ LLM ทำได้อย่างไร?
A: การวัดผล SEO เพื่อ LLM จะเปลี่ยนจากการติดอันดับและยอดเข้าชม เป็นการติดตามว่าคอนเทนต์หรือแบรนด์ของคุณถูกอ้างอิงใน AI Search บ่อยขนาดไหน
Q: SEO จะหายไปในยุค LLM หรือไม่?
A: SEO จะยังไม่หายไปในยุค LLM เพราะการทำพื้นฐาน SEO ที่ดี ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะถูก AI นำไปอ้างอิงได้มากขึ้น สิ่งสำคัญคือการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ และรูปแบบให้ตอบโจทย์กับ LLM มากกว่า
Q: ใช้ AI ช่วยเขียนบทความ SEO ช่วยให้ติด LLM ได้ไหม?
A: จริง ๆ แล้วค่อนข้างยาก เพราะ LLM ชอบเนื้อหาที่เขียนเหมือนมนุษย์สื่อสารกับมนุษย์มากกว่า เนื้อหาที่เขียนโดย AI ล้วน ๆ อาจจะขาดอารมณ์ ความรู้สึก และประสบการณ์จริงที่มนุษย์มี ดังนั้น AI จึงเหมาะใช้เป็นเครื่องมือช่วย เช่น ช่วยหาข้อมูล ทำโครงร่าง หรือเป็นไกด์ไลน์ในการเขียน แต่บทความที่จะมีโอกาสติดและถูกอ้างอิงใน LLM ได้มากที่สุด คือบทความที่เขียนด้วยภาษาแบบมนุษย์ ถ่ายทอดจากประสบการณ์จริง และให้มุมมองที่มีคุณค่าเฉพาะตัว