เว็บเขียน ต้องมีนักพัฒนาในการสร้างเว็บที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง

เว็บไซต์เขียนเอง (Custom-coded websites)

เว็บไซต์เขียนเอง หรือที่เราเรียกกันว่า เว็บเขียน คือ เว็บไซต์ที่พัฒนาด้วยโค้ดโดย Developer เช่น HTML, CSS, JavaScript และ Frameworks อื่น ๆ ในการสร้างเว็บไซต์

เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ ก็เหมือนการออกแบบและสั่งตัดชุดที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ไม่ซ้ำใคร เพื่อให้เข้ากับสรีระเราเป๊ะ ๆ นั่นเอง

ข้อดีของเว็บเขียน คือ

  • ยืดหยุ่น ออกแบบและปรับแต่งได้ดั่งใจนึก ปรับแต่งดีไซน์ ฟีเจอร์ และ UX/UI ได้เต็มที่ ให้มีความสวยงามไม่ซ้ำใคร อยากได้อะไรโค้ดก็เอาอยู่
  • โหลดเร็ว ประสิทธิภาพสูง ปรับแต่งให้เร็วและลื่นไหลได้ตามใจ ตัดโค้ดส่วนเกิน หรือฟีเจอร์ที่ไม่ใช้งานได้
  • ต่อยอด SEO ได้เต็มสูบ ควบคุมการปรับแต่งได้ลึกถึงระดับโค้ด ทั้งฟังก์ชัน, ระบบหลังบ้าน, และการเชื่อมต่อ API ต่างๆ ซึ่งสำคัญอย่างยิ่งในการทำ Technical SEO และการสร้างประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ดีที่สุด
  • Scale Up ได้ไม่จำกัด การเขียนเว็บขึ้นมาเอง ทำให้เราสามารถขยายระบบได้อย่างมั่นคง ไม่ต้องกลัวติดเพดานของแพลตฟอร์ม

ข้อจำกัดของเว็บเขียน คือ

  • ใช้เวลานาน ต้องออกแบบและทดสอบอย่างละเอียด ยิ่งเว็บเขียนนั้นมีความซับซ้อนและจำนวนฟีเจอร์ล้ำ ๆ มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งใช้เวลานานขึ้นเท่านั้น ซึ่งอาจใช้เวลาตั้งแต่ 4 เดือนไปจนถึงเกือบปีเลยทีเดียว
  • ค่าใช้จ่ายสูง ต้องจ่ายค่าฝีมือของ Developer ผู้เชี่ยวชาญ นอกจากนี้ยังมีค่าใช้จ่ายในการดูแลระบบ การบำรุงรักษา และการอัปเดตระบบในระยะยาวด้วย
  • ต้องดูแลต่อเนื่อง ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญ (Developer) ในการดูแล บำรุงรักษา และแก้ไข Bug เมื่อมีการอัปเดตระบบ หรือเมื่อความต้องการของธุรกิจเปลี่ยนไป
  • ความรู้เฉพาะทาง การแก้ไขหรืออัปเดตระบบที่เขียนด้วยโค้ด ต้องใช้บุคลากรที่มีความรู้เฉพาะด้านเท่านั้น
เว็บไซต์สำเร็จรูป สร้างเว็บได้ด้วยตัวเอง ประหยัดงบและเวลา

เว็บไซต์สำเร็จรูป (Ready-made websites)

เว็บไซต์สำเร็จรูป คือ เครื่องมือที่ช่วยให้เราสร้างเว็บไซต์ธุรกิจได้เร็วและประหยัด ด้วยแพลตฟอร์มที่มีเทมเพลตสวย ๆ พร้อมระบบหลังบ้านและฟีเจอร์พื้นฐานพร้อมใช้งาน เช่น

ถ้าการเขียนเว็บขึ้นมาเองเป็นการสั่งตัดชุด การสร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปก็เป็นการซื้อชุดที่พร้อมใส่ แค่เลือกไซซ์ที่ใช่ก็ช้งานได้ทันที

อ่านบทความที่น่าสนใจ:อยากทำเว็บต้องรู้! CMS คืออะไร? สำคัญต่อการทำเว็บไซต์อย่างไร?

ข้อดีของเว็บสำเร็จรูป คือ

  • ทำเองได้ โดยไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ด ไม่มีพื้นฐานการเขียนโปรแกรมก็สร้างเว็บพร้อมฟีเจอร์สำคัญสำหรับธุรกิจ เช่น ระบบ E-Commerce หรือ Blog เองได้ เพราะออกแบบมาให้ใช้งานง่ายสุด ๆ
  • ประหยัดเวลา ไม่ต้องรอนาน เว็บไซต์สำเร็จรูปสร้างเว็บไซต์ได้ในเวลาอันสั้น เพราะมีเทมเพลตและเครื่องมือพร้อมใช้ แค่เลือกธีม เติมคอนเทนต์ ก็พร้อมใช้งาน
  • ไม่ต้องลงทุนเยอะ จ่ายแค่ค่าแพลตฟอร์ม โฮสติ้งและโดเมน ประหยัดกว่าการจ้าง Developer มาทำเป็นทีม

ข้อจำกัดของเว็บสำเร็จรูป คือ

  • ออกแบบเว็บไซต์ได้ไม่สุด การปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ต้องอยู่ในลิมิตของแพลตฟอร์ม
  • ความเร็วประสิทธิภาพของเว็บไม่เท่ากับเว็บเขียนเอง เว็บไซต์สำเร็จรูปมักมีโค้ดและทรัพยากรอื่น ๆ ที่ไม่จำเป็นรวมอยู่ด้วย ทำให้เว็บไซต์มีข้อมูลเยอะขึ้นและใช้เวลาในการโหลดนานขึ้น
  • ติดแพลตฟอร์ม ต้องพึ่งพาผู้ให้บริการในการดูแลระบบและการอัปเดตฟีเจอร์ รวมถึงเมื่อต้องการย้ายเว็บไซต์ไปใช้ระบบอื่นในก็ทำการย้ายข้อมูลหรือย้ายระบบยาก

เปรียบเทียบความต่างระหว่างเว็บเขียนและเว็บไซต์สำเร็จรูป

ก่อนเลือกว่าจะทำ เว็บเขียน หรือ เว็บไซต์สำเร็จรูป สิ่งสำคัญคือเข้าใจความแตกต่างของแต่ละแบบให้ชัดเจน เพราะทั้ง 2 แบบ มีข้อดี-ข้อจำกัดที่ตอบโจทย์คนละเป้าหมาย

เกณฑ์เปรียบเทียบเว็บเขียน (เขียนโค้ดเอง / Custom Development)เว็บไซต์สำเร็จรูป (Website Builder / Template)
ความยืดหยุ่นปรับได้เกือบทุกอย่าง ตั้งแต่โครงสร้าง ระบบหลังบ้าน ไปจนถึงดีไซน์และฟีเจอร์เฉพาะธุรกิจ เหมาะกับงานที่ต้องการเอกลักษณ์และระบบซับซ้อนยืดหยุ่นในกรอบของ Template ที่มีมาให้ ปรับสี ฟอนต์ รูปภาพ และเลย์เอาต์ได้ระดับหนึ่ง แต่ติดข้อจำกัดด้านโครงสร้างและฟีเจอร์เชิงลึก
ดีไซน์และภาพลักษณ์แบรนด์ออกแบบได้เฉพาะตัว 100% สร้าง Experience ที่ไม่เหมือนใคร รองรับ Design System และ CI/CD ของแบรนด์เต็มรูปแบบดีไซน์ขึ้นกับ Theme/Template ที่เลือก อาจคล้ายกับเว็บไซต์อื่น ๆ ในตลาด ปรับแต่งภาพลักษณ์ได้แต่ไม่ถึงขั้นแตกต่างชัดเจน
เวลาในการพัฒนาใช้เวลาค่อนข้างนาน ต้องผ่านขั้นตอนวิเคราะห์ ออกแบบ UX/UI พัฒนา ทดสอบ และปรับแต่ง เหมาะกับโปรเจ็กต์ที่วางแผนระยะยาวเริ่มใช้งานได้เร็วมาก แค่สมัคร เลือก Template ใส่คอนเทนต์ ก็ออนไลน์ได้ในเวลาไม่นาน เหมาะกับคนที่ต้องการมีเว็บไซต์เร็ว ๆ
ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นค่าเริ่มต้นสูงกว่า เพราะต้องจ้างทีม Dev / Agency และลงทุนด้านโครงสร้างรองรับการเติบโต แต่คุ้มค่าในมุมระยะยาวค่าเริ่มต้นต่ำ จ่ายเป็นรายเดือน/รายปี มีแพ็กเกจสำเร็จรูป เหมาะกับธุรกิจที่ยังทดลองตลาด หรือมีงบจำกัดในช่วงเริ่มต้น
ประสิทธิภาพ / ความเร็วเว็บปรับแต่งโค้ด ฝั่ง Server และ Frontend ได้เต็มที่ ทำ Performance Tuning ได้ลึก ทั้ง Page Speed, Core Web Vitals และ UXประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับระบบของผู้ให้บริการและจำนวน Plugin/Widget ที่ใช้ ยิ่งเพิ่มฟีเจอร์มาก อาจทำให้เว็บช้าลงได้
การรองรับการเติบโต (Scalability)รองรับการขยายระบบได้ไม่จำกัด เพิ่มฟีเจอร์เฉพาะทาง เชื่อมต่อระบบหลังบ้าน หรือ Integrate กับระบบอื่น ๆ ได้ตามต้องการ รองรับผู้ใช้งานจำนวนมากเหมาะกับเว็บไซต์ขนาดเล็กถึงกลาง หากต้องการฟีเจอร์ซับซ้อน หรือรองรับทราฟฟิกมหาศาล อาจติดข้อจำกัดของแพลตฟอร์ม
การดูแลระบบ & การอัปเดตต้องมี Developer หรือทีมเทคนิคช่วยดูแล แก้บั๊ก อัปเดตระบบความปลอดภัย และเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอเจ้าของเว็บดูแลเองได้ระดับหนึ่ง เช่น แก้คอนเทนต์ เปลี่ยนดีไซน์เล็กน้อย ส่วนระบบหลัก แพลตฟอร์มจะอัปเดตให้โดยอัตโนมัติ
ความเหมาะสมของการใช้งานเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการเว็บไซต์เป็น สินทรัพย์ระยะยาว ใช้สร้างความแตกต่าง รองรับการขยายตัว และทำงานร่วมกับระบบอื่น ๆเหมาะกับธุรกิจเริ่มต้น, Landing Page ง่าย ๆ, เว็บแนะนำบริการ/โปรไฟล์ หรือผู้ที่อยากทดลองตลาดก่อนลงทุนทำเว็บใหญ่

แล้วควรเลือกทำเว็บไซต์แบบไหนดี?

การเลือกประเภทเว็บไซต์ก็เหมือนการเลือกชุดเก่งประจำแบรนด์ ต้องเข้ากับสไตล์ธุรกิจ ความต้องการ และเป้าหมายในอนาคต ไม่ใช่แค่ดูว่าระบบไหนดีกว่ากัน แต่ต้องดูว่า แบบไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด มาดูภาพรวมอย่างเข้าใจง่ายกันเลย

เว็บเขียน (Custom Website) สำหรับสายจริงจัง เน้นความแตกต่าง

ถ้าธุรกิจของคุณต้องการความยืดหยุ่นสูงมาก ดีไซน์เฉพาะตัว และระบบที่ต้องทำงานซับซ้อน เว็บเขียนคือการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เพราะสามารถออกแบบทุกส่วนให้แรง เร็ว และรองรับการเติบโตแบบไม่จำกัด ตัวอย่างธุรกิจที่เหมาะ ได้แก่

  • องค์กรที่ต้องเชื่อมระบบหลังบ้านหลายตัว เช่น ERP, CRM, ระบบภายในองค์กร หรือระบบที่พัฒนาขึ้นเฉพาะกิจ
  • Marketplace หรือ E-commerce ที่มี Logic ซับซ้อน เช่น ระบบคำนวณส่วนลดหลายรูปแบบ ระบบสมาชิก Loyalty ระบบจัดส่งแบบเฉพาะเจาะจง
  • Tech Startup ที่ต้องการฟีเจอร์เฉพาะตัว ฟีเจอร์หลักของเว็บไซต์เป็นจุดแตกต่างทางธุรกิจ ต้องการความเร็วสูง รองรับผู้ใช้จำนวนมากพร้อมกัน

เว็บไซต์สำเร็จรูป (Website Builder) สำหรับสายเปิดไว ทำไว พร้อมใช้งบคุ้มค่า

ถ้าต้องการเว็บไซต์เร็ว ประหยัด และใช้งานง่าย โดยไม่จำเป็นต้องมีระบบพิเศษ เว็บไซต์สำเร็จรูปคือทางเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะมี Template สวย ๆ ให้เลือก และปรับแต่งพื้นฐานได้ทันที ตัวอย่างที่เหมาะ ได้แก่

  • SME ที่เน้นการตลาดพื้นฐาน: ธุรกิจที่ต้องการแค่หน้าเว็บไซต์สวยๆ เพื่อโชว์ผลงาน บริการ และมีปุ่มติดต่อลูกค้า หรือกรอกฟอร์มพื้นฐาน
  • ร้านค้าออนไลน์ใหม่ ๆ ที่ต้องการเปิดตัวเร็ว ขายสินค้าไม่เยอะ และใช้ฟีเจอร์พื้นฐานก็เพียงพอต่อการเริ่มต้น
  • Blogger / Creator / ผู้ทำคอนเทนต์ ที่ต้องการระบบจัดการบทความง่าย ใช้เวลาน้อย และพร้อมต่อยอดทำ SEO

อ่านบทความที่น่าสนใจ:เลือกทำเว็บเองหรือจ้างบริษัทดี? มาหาคำตอบกัน!

สร้างเว็บไซต์ธุรกิจที่ใช่ไปกับ Blupaper

การเลือกเว็บไซต์ก็เหมือนการเลือกอาวุธคู่กายในสนามรบดิจิทัล ถ้าเราเลือกได้ถูกประเภทตั้งแต่แรก ธุรกิจเราก็จะโตไว โดนใจง่ายกว่าเยอะ แต่อย่าลืมว่า ไม่ว่าเราจะเลือกเว็บเขียนหรือเว็บไซต์สำเร็จรูป การดูแลเว็บไซต์นั้นไม่มีวันจบ! ถ้าไม่อยากให้เว็บพังต้องไม่ทิ้งเรื่องการดูแล

แต่ถ้ายังไม่มั่นใจว่าจะทำเว็บที่ไหนดี หรือต้องการปรึกษาเพื่อวางกลยุทธ์ให้เว็บไซต์ขึ้นไปยืนหนึ่งบน Google Blupaper จัดการให้ได้ เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเว็บไซต์ธุรกิจที่ออกแบบให้รองรับ SEO ตั้งแต่โค้ดแรก ไม่ว่าเราจะต้องการเว็บเขียนสุดเทพ หรือต้องการปรับปรุงเว็บไซต์สำเร็จรูป ให้ปังจนคู่แข่งตามไม่ทัน ติดต่อ Blupaper เลย!

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำเว็บไซต์

Q: ถ้าเริ่มต้นด้วยเว็บไซต์สำเร็จรูป แล้วค่อยย้ายไปเว็บเขียนได้ไหม?

A: ได้ แต่กระบวนการย้ายระบบ (Migration) อาจซับซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูง เพราะต้องรื้อโครงสร้างและดึงข้อมูลออกมาจากแพลตฟอร์มเดิม

Q: ถ้าต้องการฟีเจอร์ใหม่บนเว็บไซต์สำเร็จรูป ต้องทำอย่างไร?

A: ต้องค้นหา Plugin ที่ตรงกับความต้องการและติดตั้งเพิ่ม ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายและต้องตรวจสอบความเข้ากันได้ (Compatibility) แต่ถ้าเป็นเว็บเขียน สามารถสั่ง Developer ให้เขียนฟีเจอร์นั้น ๆ ได้เลย

Q: ระหว่างเว็บเขียนกับเว็บไซต์สำเร็จรูป แบบไหนทำ SEO ได้ดีกว่า?

A: เว็บเขียนมีศักยภาพในการทำ Technical SEO ได้ลึกและเต็มที่กว่า เพราะสามารถคุมโค้ดได้ทั้งหมด แต่เว็บไซต์สำเร็จรูปที่ใช้ CMS ที่ดีก็สามารถทำ SEO ให้ได้เช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของคอนเทนต์และการวางกลยุทธ์ของเราเป็นหลัก

Q: ถ้าเลือกทำเว็บเขียนต้องมีทีมแบบไหน?

A: ต้องมี Developer ที่เก่งโค้ดอย่างน้อย 1-2 คน หรือจ้างทีมเอเจนซีภายนอกอย่าง Blupaperเพื่อดูแลโค้ด การอัปเดต และความปลอดภัยโดยเฉพาะ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่ต้องวางแผนล่วงหน้า