GMV Max บน TikTok คืออะไร?
GMV Max Tiktok คือ แคมเปญแบบอัตโนมัติสำหรับการทำการตลาดบน TikTok ที่ออกแบบมาเพื่อดันยอดขายรวมให้พุ่ง โดยให้ระบบเลือกครีเอทีฟ กลุ่มเป้าหมาย และตำแหน่งโฆษณาที่คุ้มสุด ทั้งจากทั้งสัญญาณออร์แกนิกและแบบจ่ายเงิน เราแค่ตั้งกรอบ ROI เป้าหมายไว้ แล้วปล่อยให้ระบบใช้จ่ายอยู่ในช่วงนั้นเอง สบายใจเรื่องคุมงบแต่ยังไล่เก็บยอดได้เต็มที่
อ่านบทความที่น่าสนใจ: TikTok GMV Max คืออะไร? เจาะลึกฟีเจอร์และข้อดีที่นักขายออนไลน์ต้องรู้
TikTok GMV Max มีกี่แบบ เลือกแบบไหนให้เข้าท่า?
แคมเปญ GMV Max บน Tiktok มีรูปแบบการทำงานที่ออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์และตำแหน่งการขายที่แตกต่างกัน เราเพียงแค่ต้องเลือกใช้ให้ถูกกับสถานการณ์

1. Product GMV Max
Product GMV Max คือ การให้ระบบทำยอดขายสูงสุดด้วยสินค้าผ่านวิดีโอทั่วไป โดยระบบจะเลือกสินค้า เนื้อหาชิ้นงานโฆษณา และตัวเลือกการจัดวางตำแหน่งที่มีแนวโน้มสูงสุดที่จะกระตุ้นให้ผู้คนซื้อสินค้าของเราโดยอัตโนมัติ ซึ่งก็คือการปล่อยให้ระบบ AI จัดการทุกอย่างเพื่อหาผู้ซื้อสินค้าจากแค็ตตาล็อกของเรานั่นเอง
รูปแบบการขายแบบนี้เหมาะกับผู้ขายที่มีสินค้าหลากหลาย หรือมีแค็ตตาล็อกขนาดใหญ่ที่ต้องการโปรโมต และใช้เมื่อต้องการเน้นยอดขายจากวิดีโอทั่วไป (In-Feed Ads) รวมถึงใช้เพื่อทำ Retargeting ลูกค้าที่เคยเข้าชมสินค้า หรือแม้แต่ใช้เพื่อทำ Prospecting โดยให้ระบบหาผู้ซื้อสินค้าใหม่จากแค็ตตาล็อกของเรา
อย่างไรก็ตาม สินค้าในแค็ตตาล็อกต้องมีรูปภาพและรายละเอียดครบถ้วน เพื่อให้ระบบนำไปใช้สร้างชิ้นงานโฆษณาได้ดี และหากมีวิดีโอ ก็ต้องเป็นวิดีโอที่หลากหลายสำหรับสินค้าในแค็ตตาล็อก เพื่อให้ระบบมีตัวเลือกในการทดสอบหาครีเอทีฟที่เวิร์กให้เราได้เป๊ะ ๆ
2. LIVE GMV Max
LIVE GMV Max คือ การใช้พลังของแอดเติมเต็มยอดขายให้พุ่งทะยานในช่วงเวลาที่เรากำลังจัด Live สด โดยระบบจะปรับปรุงปริมาณการเข้าชมห้อง LIVE เพื่อสร้างรายได้รวมสูงสุด (GMV) ให้กับกิจกรรม LIVE ของเรา โดยจะดึงผู้ใช้งานที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าใน Live เข้ามาอย่างรวดเร็ว
รูปแบบการขายแบบนี้เหมาะที่จะใช้เพื่อเร่งยอดขายในช่วงเวลาจำกัดของกิจกรรม Live มีโปรโมชันพิเศษ หรือสินค้าที่ต้องโชว์การใช้งานแบบเรียลไทม์
แต่ก็ต้องมั่นใจว่าLive ของเรามี Content ที่น่าสนใจ และมี Call-to-Action เด็ด มัดใจผู้ใช้ให้อยู่หมัด เพราะถ้าแอดดึงคนเข้ามาแล้ว แต่คนยังออก ระบบจะลดคะแนนประสิทธิภาพทันที รวมถึงคุมงบใน Live ที่กำลังทำเงิน ให้ค่อยเป็นค่อยไป เพื่อให้ระบบรักษาประสิทธิภาพในการดึงผู้ซื้อที่มีคุณภาพมาให้เรา
สรุปง่าย ๆ ว่า Product GMV Max จะเน้นขายจากตัวสินค้า ระบบจะคัดเลือกสินค้า วิดีโอ และตำแหน่งลงโฆษณาที่มีโอกาสปิดได้สูงสุดอัตโนมัติ เหมาะกับร้านที่มีคอนเทนต์รีวิวสั้นและแค็ตตาล็อกพร้อม
ส่วน LIVE GMV Max จะเน้นดันทราฟฟิกเข้าห้องไลฟ์เพื่อปั้นรายได้รวมของไลฟ์ให้สูงสุด เหมาะกับร้านที่มีทีมไลฟ์ ข้อเสนอหน้างาน และสต๊อกรองรับยอดที่พุ่งอยู่ตลอดเวลา
ไขข้อข้องใจ GMV Max Status หมายถึงอะไร และยิงยังไงให้ยอดขายพุ่ง?
ใครที่กำลังสับสนกับสถานะของแคมเปญอยู่ มาดูไปพร้อมกันว่า Status ของ TikTok GMV Max มีอะไรบ้าง แต่ละแบบหมายถึงอะไร
1. Not Active
สถานะ Not Active หมายถึง แอดของเราไม่ได้ถูกนำไปเผยแพร่เลย เพราะ TikTok คำนวณแล้วว่าไม่คุ้มค่าที่จะไปยิงแอด โดยส่วนใหญ่แล้ว วิดีโอแอดที่ติดสถานะนี้ถึง 90% มักเป็นวิดีโอที่เก่าเกินกว่า 30 วัน และที่สำคัญคือไม่มียอดขายเลยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
หมายความว่าวิดีโอเก่าและไม่มียอดขายแปลว่ามี ROI ต่ำ การนำวิดีโอเหล่านี้มายิงต่อจะทำให้ Performance ของแคมเปญโดยรวมดูแย่ลง TikTok จึงเลือกที่จะไม่เอามาใช้มัน
อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อยกเว้นที่เราพอจะทดลองได้ก็คือ หากวิดีโอตัวนี้เคยขายได้และมี ROI ดีมาก่อน แต่ถูกหยุดไปเพราะปัญหาอื่น เช่น สต๊อกสินค้าหมดชั่วคราว เราก็สามารถลองเอากลับมายิงบูสต์ได้ ด้วยงบเพียงเล็กน้อยก่อน ประมาณ 100-200 บาท เพื่อกระตุ้น Signal ของวิดีโอ ถ้าบูสต์แล้ว ROI กลับมาดี แอดก็จะกลับมาเป็นสถานะ Delivery ต่อ แต่ถ้าไม่ก็ควรหยุดบูสต์
2. In Queue
สถานะ In Queue หมายถึง แอดของเราผ่านการตรวจนโยบายเบื้องต้นแล้ว และกำลังเข้าคิวเพื่อให้ระบบ GMV Max พิจารณาว่าจะนำไปแข่งเมื่อไหร่และจะใช้เงินเท่าไหร่ในการทดสอบ
สาเหตุที่จะต้องมีสถานะนี้ก็เพราะเจ้า GMV Max บน TikTok ทำงานภายใต้ข้อจำกัดด้านงบประมาณ ทำให้ตัวระบบเองไม่สามารถนำวิดีโอจำนวนมากของเราไปทดสอบพร้อมกันทั้งหมดได้ จึงต้องทยอยเทสวิดีโอที่มีศักยภาพสูงสุดก่อนนั่นเอง
การที่วิดีโอเข้าสู่สถานะ In Queue แล้ว แสดงว่าระบบ TikTok GMV ได้เห็น Signal ของ Organic หรือสัญญาณอื่น ๆ ที่บ่งชี้ว่าวิดีโอนี้สามารถขายได้ ในขณะเดียวกัน วิดีโอที่มีโอกาสขายได้ยากก็จะถูกจัดให้อยู่ในคิวที่ไกลออกไป จนอาจจะไม่ถูกนำทดสอบเลยด้วยซ้ำไป
หากวิดีโอแอดอยู่ในช่วงนี้ เราทำได้แค่เพียงอดทนรออย่างใจเย็น ให้ระบบทำงานตามกลยุทธ์ที่วางไว้จะดีกว่า นอกเสียจากว่าจะเกิดสถานการณ์ที่เราต้องรีบใช้วิดีโอนี้อย่างด่วนจี๋ เช่น ในช่วงแคมเปญใหญ่ประจำเดือนอย่าง 10.10 แล้วเราเพิ่งโพสต์วิดีโอนี้ไป เราสามารถบูสต์เพื่อกระตุ้น Signal ให้วิดีโอเข้าสู่ Learning ไวขึ้นได้

3. Learning
สถานะ Learning คือ ช่วงที่ระบบ GMV Max เริ่มนำวิดีโอที่ถูกเลือกจาก In Queue มาทดสอบจริง โดยจะเริ่มมีการใช้ Budget ของเรา และค้นหากลุ่มเป้าหมายที่ทำกำไรได้ดีที่สุด ถือเป็นอีกขั้นตอนสำคัญในวิธียิงแอด TikTok ให้ปังเลยก็ว่าได้ แต่ไม่ต้องกังวลไปถ้าเห็นว่าตัวเลข ROI ในช่วงนี้จะแกว่งแรงไปสักหน่อย เพราะระบบกำลังทดสอบอยู่
ดังนั้น หากวิดีโอแอดของเราอยู่ในสถานะ In Queue กับ Learning ให้เราอดใจรอสักนิด เพราะ TikTok GMV กำลังไล่ทดสอบวิดีโอของเราอยู่
แต่เรามีข่าวดีมาฝาก! ตอนนี้ TikTok ได้เพิ่มฟีเจอร์ใหม่ที่ทำให้การทำงานของ GMV Max ยืดหยุ่นและลื่นไหลยิ่งขึ้น นั่นคือ Accelerated Testing for New Videos ฟีเจอร์นี้จะทำให้ GMV Max จากเดิมที่โฟกัสที่ ROI เป็นหลัก หันมาให้ความสำคัญกับวิดีโอใหม่ด้วย
เมื่อเราทำวิดีโอใหม่มาและเปิดใช้งานฟีเจอร์นี้ วิดีโอจะถูกนำมาแทรกคิวใน Learning ทันที ทำให้วิดีโอใหม่เหล่านี้ Delivery ได้ทันเวลา ไม่ต้องนั่งเข้าคิวรอจนกระแสหมดไปเสียก่อน ถือเป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยให้แคมเปญของเราทันทุกเทรนด์และทำเงินได้เร็วขึ้น
การเปิดตั้งค่าก็แสนง่าย ทำได้ตามขั้นตอนนี้เลย
1. เข้าไปที่ Edit แคมเปญ หรือ สร้างแคมเปญใหม่
2. ไปที่หน้า Ad Creative แล้วเลือก Manage
3. เมื่อเข้ามาที่หน้า Manage Creatives แล้ว ให้กดที่ Advance Setting
4. เปิด Accelerated testing for new videos
เพียงแค่นี้ระบบก็จะนำวิดีโอใหม่ของเรามาแทรกคิว Learning ให้ทันที
4. Delivery
สถานะ Delivery คือ วิดีโอที่ระบบ AI ของ GMV Max ได้คัดเลือกมาแล้วว่ามีศักยภาพสูงสุดในการทำยอดขายและกำลังยิงแอดจริงอยู่ตอนนี้ ซึ่งจำนวนวิดีโอในสถานะนี้มีอยู่น้อยมาก อาจมีเพียงแค่ประมาณ 10% ของวิดีโอทั้งหมด
แม้จะเป็นส่วนน้อย แต่เป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เพราะเป็นวิดีโอที่ AI นำส่งนานและทำยอดให้เรา ซึ่งจะขาดทุนหรือไม่นั้นก็วัดกันที่ตรงนี้นี่แหละ
แนวทางการจัดการวิดีโอ ROI ดี
- ROI ดี ที่ไม่มีปัญหาอะไร ควรปล่อยไว้เพื่อทำเงินต่อไปเรื่อย ๆ
- ROI ดี แต่ GMV Max ไม่ดันต่อ อาจเป็นสัญญาณบางอย่าง เช่น Audience ของวิดีโอนี้เริ่มตันแล้ว
- การบูสต์วิดีโอ ROI ดี ไม่จำเป็นต้องบูสต์เยอะ ถ้าอยากกระตุ้น Signal ให้วิดีโอก็ไม่ควรเกิน 20-30% ของ Daily Budget ก็เพียงพอแล้ว
แนวทางการจัดการวิดีโอ ROI แย่
ถ้าแอดอยู่ในสถานะ Delivery แต่มี ROI แย่ เราไม่ควรลบทิ้งทันทีทุกเคส แต่ต้องเข้าใจบทบาทของวิดีโอตาม Funnel ก่อน เพราะ GMV Max ยิงวิดีโอไปถึงทั้ง Middle Funnel และ Lower Funnel เราจึงต้องแยกออกมาเป็น 3 เคส ดังนี้
1. ROI แย่ แต่ Quality ดี
วิดีโอเหล่านี้มักเป็นวิดีโอรีวิวที่ดูจริงใจหรือให้ข้อมูลดีแต่ไม่มี CTA ปิดการขาย ทำให้ ROI ต่ำ ทำให้วิดีโอเหล่านี้ทำหน้าที่ในส่วน Middle Funnel คอยเกลี้ยกล่อมให้คนซื้อ ก่อนปล่อยให้เป็นหน้าที่ของวิดีโอที่มีโปรโมชันปิดการขายรับช่วงต่อ
หมายความว่า เราห้ามเผลอลบวิดีโอแบบนี้เด็ดขาด! ถ้าลบวิดีโอในเคสนี้ไป ช่วงแรกแอดเราอาจจะดูดีมาก แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่กี่เดือน Funnel จะเสีย ฐาน Audience ขาด และแอดจะพังได้ในที่สุด
2. ROI แย่ Quality ก็ห่วย
กลุ่มวิดีโอที่ไม่น่าสนใจ ไม่ตอบโจทย์ หรือไม่ได้อยู่ใน Funnel ไหนเป็นพิเศษ หากเป็นเคสนี้สามารถลบได้เลย เพราะเป็นวิดีโอที่นอกจากจะไม่มีประโยชน์แล้ว ยังดึง Performance โดยรวมของแคมเปญให้ดิ่งลงไปด้วย
3. ROI แย่ พร้อมเนื้อหา Misleading
เป็นวิดีโอที่นำเสนอไม่ตรงปก เช่น โปรโมชัน คือ “ซื้อ 2 แถม 1” แต่ Influencer กลับพูดว่า “ซื้อ 2 แถม 2” ทำให้มีโอกาสตีกลับสูง แม้จะสามารถเก็บไว้เป็น Retargeting หรือใช้เป็น Traffic เพื่อสร้างความคุ้นเคยได้ แต่ทางที่ดีควรจะลบทิ้งไปดีกว่า เพราะวิดีโอเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำให้ Performance แย่ แต่ยังสร้างปัญหาด้านนโยบาย และความไว้วางใจของลูกค้าในระยะยาวอีกต่างหาก
อ่านบทความที่น่าสนใจ:Full Funnel Marketing คืออะไร? กลยุทธ์การทำการตลาดแบบครบ Loop

5. Not Delivery
สถานะ Not Delivery คือ สัญญาณที่บอกเราชัดเจนว่าวิดีโอนี้แย่ เพราะเป็นวิดีโอที่เคยถูกระบบนำส่ง (Delivery) ไปแล้ว แต่ทำ ROI ได้ต่ำ หรือ Quality ไม่ดี ไม่สามารถทำหน้าที่ Middle Funnel หรือ Lower Funnel ได้ตามที่ระบบคาดหวัง
GMV Max จึงเลิกยิงแอดตัวนี้ไปโดยปริยาย เพราะถ้ายังคง Delivery ต่อไป ROI โดยรวมของแคมเปญเราก็จะเสีย ถือเป็นวิดีโอที่ไม่ผ่านการทดสอบหรือตกเทรนด์ไปแล้ว
แต่อย่างที่เราเคยพูดถึงข้อยกเว้น 10% ก่อนหน้านี้ว่า บางวิดีโออาจมี Signal ที่ดีมาก แต่หยุดยิงแอดไปเพราะเหตุผลอื่น ถ้าเราอยากให้โอกาสมันจริง ๆ ก็สามารถบูสต์นิดหน่อยเพื่อกระตุ้นสัญญาณอีกครั้งได้ แต่ต้องทำใจไว้เลยว่าส่วนมากมัก ไม่ค่อยได้ผล
6. Unavailable
สถานะ Unavailable เป็นสถานะสำคัญที่คนเข้าใจผิดมากที่สุดเลยก็ว่าได้ คนส่วนใหญ่มักจะคิดว่าเกิดปัญหาขึ้นซะแล้ว แต่ในความเป็นมันเป็นสัญญาณของความสำเร็จต่างหาก
วิดีโอแอดที่กำลังไปได้ดี มี Traffic มากขึ้น คนดูวิดีโอมากขึ้น และขายได้มากขึ้น ทีม Policy ของ TikTok จะเข้ามาเช็กวิดีโอของเราว่าถูกกฎหรือเปล่า เพื่อให้แน่ใจว่าคอนเทนต์ที่ถูกนำส่งในปริมาณมากไม่ได้ละเมิดนโยบายใด ๆ
ถ้าแอดของเราอยู่ในสถานะ Unavailable ก็ทำใจให้สบายได้เลย เพราะถ้าตรวจสอบผ่านแล้ว ก็จะกลับไปเป็นสถานะ Delivery เพื่อทำเงินต่อทันที
7. Reject
หากตรวจสอบจาก Unavailable แล้วไม่ผ่าน ก็จะเข้าสู่สถานะ Reject ทันที สถานะนี้เป็นสัญญาณสุดท้ายที่บอกว่า วิดีโอของเรามีบางอย่างที่ผิดกฎ ทำให้ระบบไม่ยอมรับการนำส่งแอดของเรา
ถ้าเรามั่นใจว่าวิดีโอของเราไม่ได้ละเมิดนโยบาย เราสามารถส่งให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลเราช่วยโต้แย้งให้ หรือกดปุ่ม อุทธรณ์ (Appeal) ใน Ad Manager ได้เลย แต่ต้องเตรียมเหตุผลและหลักฐานที่ชัดเจนประกอบด้วย
ถ้าผิดจริง ให้เอากลับมาศึกษาทันที เพราะบางทีวิดีโอที่ ROI ดีมาก ปิดการขายดีมาก แต่เราเผลอพูดผิดไปบางคำหรือทำภาพที่ขัดต่อกฎไปบางส่วน การนำกลับมาเป็นบทเรียนจากวิดีโอที่โดน Reject จะช่วยให้เราไม่เอาข้อผิดพลาดนั้นไปทำซ้ำในวิดีโออื่น ๆ ช่วยรักษา Performance โดยรวมของแคมเปญเราไว้ได้
อย่าปล่อยให้แอดดี ๆ ตายฟรีเพราะไม่รู้สถานะ
GMV Max ทำงานร่วมกับระบบของ TikTok แบบอัตโนมัติ ดังนั้นถ้าเราเห็นว่าวิดีโอเราเงียบ ไม่ได้แปลว่ามันถูกหยุด แต่มันกำลังคัดว่าอันไหนคุ้มยิงต่อ หน้าที่ของเราคือสอนระบบด้วยสัญญาณที่ดี ทำคอนเทนต์ที่เวิร์ก ดูแลตัวที่ทำเงิน และตัดตัวถ่วงให้ไว เพราะเราสามารถคุมยอดให้ทะลุ Max ได้โดยไม่ต้องนั่งเดา
แต่การวิเคราะห์สถานะที่ซับซ้อนของ GMV Max และการทำคอนเทนต์ TikTok ให้ปังไปพร้อม ๆ กัน อาจเป็นเรื่องที่กินเวลาและต้องใช้ความเชี่ยวชาญสูง หากไม่มีทีมงานที่คอยดูแลอย่างใกล้ชิด โอกาสที่แอดดี ๆ จะหยุดทำงาน แถมยังมีแอดตัวถ่วงคอยรังควานให้เสียงบ
Blupaper มีทีมผู้เชี่ยวชาญในการวางแคมเปญ GMV Max บน TikTok ที่เหมาะสมกับแบรนด์โดยเฉพาะ เราช่วยคุณวิเคราะห์ TikTok GMV ตั้งแต่การวางโครงสร้างคอนเทนต์ ไปจนถึงการบูสต์แอดได้อย่างแม่นยำ ติดต่อ Blupaper ตอนนี้! เพื่อให้TikTok Ads ของคุณทำเงินทะลุ Max ทุกแคมเปญ!
- โทร. 094-454-2495
- Line: @blupaper
- Facebook: Blupaper Digital Marketing Agency
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ GMV Max
Q: ทำไมวิดีโอที่ Delivery อยู่ดี ๆ ก็เงียบไป?
A: ส่วนใหญ่มักเกิดจากความอิ่มตัวของกลุ่มเป้าหมาย หรือประสิทธิภาพของครีเอทีฟตกลง สามารถแก้ไขได้ด้วยการขยายกลุ่มเป้าหมายให้กว้างขึ้น เปลี่ยนวิดีโอใหม่เข้าไปแทนที่ และตรวจสอบว่ามีคู่แข่งเข้ามาแย่งพื้นที่โฆษณาในกลุ่มเป้าหมายเดียวกันหรือไม่
Q: ควรบูสต์คลิปที่ Delivery อยู่เท่าไหร่ดี?
A: หลักการที่ดีในการบูสต์แอดที่ Delivery เพื่อให้ทำกำไร คือ เพิ่มงบประมาณทีละไม่เกิน 20 – 30% ต่อวัน เพื่อให้ระบบมีเวลาปรับตัวและหาผู้ซื้อที่มีคุณภาพต่อได้ การทุ่มงบเพิ่มเยอะและเร็วเกินไปอาจทำให้ระบบหลงทางและประสิทธิภาพตกได้
Q: Unavailable นานแค่ไหนถึงน่าเป็นห่วง?
A: สถานะ Unavailable เกิดจากการตรวจสอบตามนโยบาย อาจใช้เวลา 24 – 48 ชั่วโมง ถ้าเกิน 72 ชั่วโมง (3 วัน) แล้ว ยังไม่เปลี่ยนสถานะ ควรติดต่อฝ่ายสนับสนุนของ TikTok เพื่อตรวจสอบโดยตรง
Q: วิดีโอติด In Queue นานมาก ทำอย่างไรดี?
A: อาจพิจารณาเพิ่มงบประมาณเล็กน้อย หรือผ่อนปรน Target ROAS ที่ตั้งไว้ให้สมจริงมากขึ้น เพราะการเข้าคิวนานมักจะหมายถึงระบบคำนวณแล้วว่าแอดของเราไม่สามารถทำกำไรตามเป้าที่กำหนดได้ หรือเลือกเปิดใช้ฟีเจอร์ Accelerated testing for new videos เพื่อแซงคิวก็สามารถทำได้เช่นกัน