Content Pillar คืออะไร
Content Pillar คือ หัวข้อหลักที่สำคัญที่สุดของคอนเทนต์นั้น ๆ ที่แบรนด์ของเราต้องการนำเสนอต่อกลุ่มเป้าหมาย หรือแปลตรงตัวง่าย ๆ ว่า เสาหลักของคอนเทนต์ เพื่อกำหนดหัวข้อหลักกว้าง ๆ ที่ครอบคลุมเนื้อหาคอนเทนต์ของเรา โดยที่เข้ากับภาพลักษณ์และเป้าหมายของแบรนด์ ดังนั้น การมี Content Pillar ที่ชัดเจน จะช่วยให้รู้ว่าควรทำคอนเทนต์เรื่องอะไร ไม่หลงทาง
Content Pillar สำคัญอย่างไร?
Content Pillar ไม่ได้เป็นแค่การจัดระเบียบเนื้อหาให้ดูดี แต่ยังส่งผลดีต่อเว็บไซต์ในอีกหลายด้าน
- สร้าง Authority และความน่าเชื่อถือ เมื่อมีเนื้อหาที่ครอบคลุมหัวข้อหลัก จะช่วยให้เว็บไซต์ของเราถูกมองว่าเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและเป็นผู้เชี่ยวชาญในสายตาของทั้งผู้ใช้งานและ Google
- เพิ่มประสิทธิภาพ Internal Linking เพราะ Content Pillar ทำหน้าที่จัดหมวดหมู่เนื้อหาคอนเทนต์ให้เป็นระเบียบ เปรียบเสมือนตัวเชื่อมโยงไปยังบทความย่อยที่เกี่ยวข้อง ช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างเว็บไซต์และความสัมพันธ์ของเนื้อหาได้ง่ายขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อการทำอันดับ
- ดึงดูด Traffic คุณภาพ Content Pillar ช่วยให้แบรนด์นำเสนอเนื้อหาที่สอดคล้องกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ช่วยดึงดูดผู้เข้าชมที่มีความสนใจในหัวข้อนั้นจริง ๆ และมีโอกาสที่จะกลายเป็นลูกค้าในอนาคต
- ส่งเสริม SEO Content Pillar ที่ครอบคลุมเนื้อหาหลากหลายแต่ยังคงความชัดเจน สอดคล้องกับความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย และมีการอัปเดตเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ ร่วมกับการใช้คีย์เวิร์ดที่ดี ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้าน SEO ให้ดีขึ้น
- ทำอันดับได้ดีขึ้น (Ranking) เมื่อมีเนื้อหาและการเชื่อมโยงที่ดี Google จะมองว่าเว็บไซต์เราเป็นแหล่งข้อมูลที่มีคุณค่า และมีโอกาสดันอันดับให้สูงขึ้นในหน้าผลการค้นหา
Content Pillar Strategy คืออะไร?
เมื่อเราเข้าใจ Content Pillar แล้ว ก็สามารถอธิบายง่าย ๆ ได้ว่า Content Pillar Strategy คือ แผนการสร้าง จัดการ และวัดผล Content Pillar ของเราอย่างเป็นระบบ เพราะการทำ Content Pillar Strategy ไม่ใช่แค่คิดหัวข้อหลักขึ้นมา แต่เป็นการวางแผนที่ต้องอาศัยความเข้าใจในธุรกิจ กลุ่มเป้าหมาย และเป้าหมายทางการตลาดด้วย เพื่อให้เราสามารถปรับปรุงและพัฒนาต่อไปได้อย่างต่อเนื่อง
ดังนั้น Content Pillar Strategy จึงเปรียบเสมือนพิมพ์เขียวในการทำคอนเทนต์ โดยกำหนดว่าเราจะสร้างเสาหลัก อย่าง Content Pillar ด้วยเนื้อหาแบบไหน และจะเชื่อมโยงบทความต่าง ๆ เข้าด้วยกันอย่างไร

ทำไมต้องทำ Content Pillar?
- โครงสร้างเว็บไซต์เป็นระเบียบ ช่วยจัดระเบียบเนื้อหาบนเว็บไซต์ให้เป็นหมวดหมู่ เนื้อหาไม่กระจัดกระจาย หาอะไรก็ง่าย Google ก็ชอบ คนอ่านก็เลิฟ
- เพิ่มประสิทธิภาพ SEO ในระยะยาว: เป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการทำ SEO เหมือนติดบูสเตอร์ให้เว็บ ขึ้นหน้าแรก Google ได้ไม่ยาก
- ดึงดูดและรักษาผู้เข้าชม การนำเสนอข้อมูลที่ครบถ้วนและลึกซึ้ง ทำให้ผู้เข้าชมใช้เวลาบนเว็บไซต์นานขึ้นและมีแนวโน้มที่จะกลับมาอีก เพราะเนื้อหาดี ใคร ๆ ก็อยากอ่าน อยากแชร์
- สร้างความเชื่อมั่น แสดงให้เห็นว่าเว็บไซต์ของเราเป็นแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ในหัวข้อนั้น ๆ เป็นผู้เชี่ยวชาญทั้งในสายตาคนอ่านและ Google
- ประหยัดเวลาและทรัพยากร เมื่อมีเสาหลักอย่าง Content Pillar ที่แข็งแกร่งแล้ว การสร้างเนื้อหาย่อยที่เกี่ยวข้องก็จะง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
- ต่อยอดได้หลายรูปแบบ Content Pillar สามารถนำไปต่อยอดในการสร้างคอนเทนต์สำหรับ Social Media หรือ Email Marketing และอื่น ๆ ได้อีกด้วย
วิธีสร้าง Content Pillar แบบมือโปร!
การสร้าง Content Pillar ให้เป็นมืออาชีพและมีประสิทธิภาพ ต้องผ่านวางแผนและการดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน
1. กำหนดเป้าหมายทางธุรกิจและเจาะลึกกลุ่มเป้าหมาย
ก่อนที่จะลงมือสร้างคอนเทนต์ใด ๆ ก็ตาม สิ่งแรกที่ต้องทำคือ ระบุเป้าหมายทางธุรกิจให้ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างการรับรู้แบรนด์ การเพิ่มยอดขาย หรือการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า เพราะเป้าหมายเหล่านี้จะเป็นเข็มทิศที่ใช้นำทางการสร้างสรรค์คอนเทนต์
ควบคู่ไปกับการทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายอย่างการสร้าง Target Persona เพื่อให้เข้าใจความต้องการ ปัญหา และความสนใจของพวกเขา และสร้าง Content Pillar ที่ตอบโจทย์และสร้างคุณค่าได้อย่างแท้จริง
2. หาหัวข้อหลักที่ใช่
การเลือกหัวข้อหลักถือเป็นหัวใจสำคัญ โดยเริ่มจากการระบุหัวข้อที่สำคัญที่สุดสำหรับธุรกิจของเราว่า อะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุด? ลูกค้าควรรู้อะไร? โดยพิจารณาจากสินค้า บริการ กลุ่มเป้าหมาย และคำหลักที่เกี่ยวข้อง และพิจารณาตามวัตถุประสงค์ทางธุรกิจ เช่น Engagement, Brand Awareness, Selling, Reviews หรือจากประเภทของเนื้อหาที่ต้องการนำเสนอ เช่น Education, Lifestyle, Seasoning Content เป็นต้น
3. หา Keyword ที่ฮิต ๆ
ใช้เครื่องมือ Keyword Research หาคำที่คนใช้ค้นหาเยอะ ๆ เกี่ยวกับหัวข้อหลักที่เราต้องการทำคอนเทนต์ เพื่อส่องหาคำหลักอย่างละเอียด เพื่อค้นหาคำที่กลุ่มเป้าหมายใช้ในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อหลักของเรา รวมถึงคำหลักรองที่จะใช้ในเนื้อหาย่อย
4. วิเคราะห์คู่แข่งในตลาดเดียวกัน
ศึกษาคู่แข่งเพื่อทำความเข้าใจจุดแข็ง จุดอ่อน และลักษณะคอนเทนต์ และนำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนากลยุทธ์คอนเทนต์ที่แตกต่างและเหนือกว่า
5. วางแผนเนื้อหาย่อย
แตกหัวข้อหลักออกเป็นหัวข้อรองที่เจาะลึกในรายละเอียดต่าง ๆ กำหนดหัวข้อและรูปแบบของเนื้อหาที่จะสนับสนุน Pillar หลัก เช่น
- บทความ How-to
- Case Study
- รายการคำถามที่พบบ่อย (FAQ)
- Infographic
6. ลงมือสร้างและเผยแพร่เนื้อหา
สร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง ตรงประเด็น น่าสนใจ และเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน อย่าลืมใส่คำหลักที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นธรรมชาติ พร้อมเผยแพร่เนื้อหาให้เหมาะสมกับรูปแบบคอนเทนต์
7. เชื่อมโยง Internal Link
เชื่อมโยงด้วยลิงก์ระหว่างบทความ จากบทความหลักไปยังบทความย่อย และจากบทความย่อยกลับมายังบทความหลักอย่างเป็นธรรมชาติ ให้เกิดเป็นเครือข่ายเนื้อหาที่แข็งแกร่ง และช่วยให้ Google เข้าใจความสัมพันธ์ของเนื้อหา
8. ตามวัดผลและปรับปรุง
ติดตามผลลัพธ์ของ Content Pillar ด้วยเครื่องมือวิเคราะห์เว็บ เพื่อดูว่า Pillar ไหนเวิร์ก ไม่เวิร์ก ทั้งจากจำนวนผู้เข้าชม ระยะเวลาที่อยู่ในเว็บไซต์ อัตราการมีส่วนร่วม และอันดับในหน้า Search Engine จากนั้นนำข้อมูลมาปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง

ตัวอย่าง Content Pillar วางกลยุทธ์ให้ปัง
เพื่อให้เห็นภาพและเข้าใจแนวทางการสร้าง Content Pillar ที่หลากหลาย ลองมาดูตัวอย่าง Content Pillar ในประเภทต่าง ๆ พร้อมไอเดียคอนเทนต์ อ่านจบแล้วลองเอาไปปรับใช้ได้เลย!
1. Branding
เน้นการสื่อสารเรื่องราว คุณค่า และเอกลักษณ์ของแบรนด์ จะช่วยสร้างความผูกพันและความจดจำในระยะยาว เช่น
- จุดเริ่มต้นและความเป็นมาของแบรนด์ [ชื่อแบรนด์] เขียนเป็นบทความเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจ
- วิสัยทัศน์และพันธกิจของเราในการสร้างสรรค์ [สินค้า/บริการ] เลือกตัวชูโรงของแบรนด์ และอาจทำเป็นวิดีโอสั้นจากผู้บริหาร
- คุณค่าหลักที่เรายึดมั่น จัดทำเป็นภาพพร้อมข้อความที่สื่อถึงเอกลักษณ์
- เบื้องหลังการผลิต [สินค้า/บริการ] ทุกขั้นตอนอย่างละเอียด ทำเป็นบทความหรือวิดีโอเบื้องหลังที่แสดงความใส่ใจ ให้กลุ่มเป้าหมายได้รู้จักแบรนด์ของคุณมากขึ้นและช่วยให้รู้สึกใกล้ชิดกับแบรนด์มากขึ้น
- สำเร็จและความประทับใจจากลูกค้าของเรา จัดเป็น Testimonial หรือ Case Study ที่เน้นคุณค่าของแบรนด์
2. Education
เน้นให้ความรู้และเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมาย ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความเชี่ยวชาญให้กับแบรนด์และเว็บไซต์ของเรา เช่น
- SEO คืออะไร? ทำไมธุรกิจของคุณถึงต้องรู้จัก เขียนบทความให้ข้อมูลเบื้องต้น
- เครื่องมือ SEO ฟรี ที่ธุรกิจ SME ต้องมี เขียนบทความรีวิวและแนะนำการใช้งาน
- 5 ขั้นตอนง่ายๆ ในการทำ Keyword Research ด้วยตัวเอง จัดทำเป็นวิดีโอสอนแบบ Step-by-Step
- On-Page SEO Checklist: ตรวจสอบเว็บไซต์ให้พร้อมสำหรับ Google ทำ Infographic สรุปประเด็นสำคัญ
3. Awareness
เน้นให้ข้อมูลเชิงลึกและสร้างความเข้าใจในวงกว้าง ช่วยให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญ เช่น
- 5 ความเข้าใจผิดที่พบบ่อยเกี่ยวกับ [อุตสาหกรรมของเรา] เขียนเป็นบทความให้ข้อมูลที่ถูกต้อง
- เบื้องหลัง [กระบวนการ/เทคโนโลยี] ที่ธุรกิจของเรา ถ่ายวิดีโอสั้นอธิบายให้เข้าใจง่าย
- สถิติที่น่าสนใจเกี่ยวกับ [ปัญหาที่ธุรกิจคุณแก้ไข] ทำ Infographic ที่น่าดึงดูดและแชร์ง่าย
4. Selling
หากเป้าหมายหลักคือการเพิ่มยอดขาย การสร้าง Content Pillar ที่เน้นคุณประโยชน์และแก้ปัญหาให้กับลูกค้าโดยตรง จะช่วยกระตุ้นความสนใจและนำไปสู่การตัดสินใจซื้อ เช่น
- เจาะลึกฟีเจอร์เด่นของ [ชื่อสินค้า/บริการ] ที่ต้องว้าว! เขียนบทความอธิบายคุณสมบัติและประโยชน์
- [ชื่อสินค้า/บริการ] ช่วยแก้ปัญหา [Pain Point ของลูกค้า] ได้อย่างไร? ทำ Case Study ที่แสดงผลลัพธ์ชัดเจน
- เปรียบเทียบ [ชื่อสินค้า/บริการ] เราเหนือกว่าอย่างไร? ทำ Infographic เปรียบเทียบคุณสมบัติและราคา
- ฟังเสียงจากคนที่เคยใช้ [ชื่อสินค้า/บริการ] แสดงข้อความและวิดีโอรีวิว
5. Engagement
เน้นการมีส่วนร่วม เพื่อช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มเป้าหมายและเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์ เช่น
- แบบทดสอบบุคลิกภาพ หา Destination ที่ใช่สำหรับคุณ จัดทำ Interactive Quiz ที่แชร์ผลลัพธ์ได้
- โหวตสุดยอดร้านอาหารไทยฟิวชันที่คุณชื่นชอบ ทำ Poll บนโซเชียลมีเดียให้ผู้คนร่วมแชร์ความเห็น
- ชาเลนจ์ถ่ายภาพสถานที่ท่องเที่ยวที่คุณประทับใจที่สุด พร้อมติดแฮชแท็ก ทำเป็นแคมเปญ User-Generated
- เกมทายคำศัพท์ภาษาไทยเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยว ทำ Mini-Game บนโซเชียลมีเดียหรือเว็บไซต์ให้ร่วมสนุก

เลิกคิดวันต่อวัน! หันมาวางแผน Content Pillar Strategy กับ Blupaper
การสร้าง Content Pillar ที่มีประสิทธิภาพต้องอาศัยความเข้าใจในเป้าหมายทางธุรกิจ กลุ่มเป้าหมาย และการวางแผนเนื้อหาอย่างรอบคอบ ตั้งแต่การระบุหัวข้อหลัก สร้างสรรค์เนื้อหา การทำ Internal Link ไปจนถึงการเลือกช่องทางการเผยแพร่ที่เหมาะสม และการวัดผลเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง
แต่การวาง Content Pillar Strategy ไม่ใช่แค่การวางแผนคอนเทนต์ให้มีระเบียบ แต่คือการสร้างแกนกลางที่แข็งแรงให้แบรนด์ในโลกดิจิทัล ถ้าคุณไม่รู้จะเริ่มยังไงดี Blupaper เรามีทีมมือโปรที่เข้าใจและวาง Content Pillar ได้แม่นยำ พร้อมต่อยอดให้คอนเทนต์ของคุณมีพลัง พร้อมปังในทุกแพลตฟอร์ม ปรึกษา Blupaper ได้เลยฟรี ๆ ไม่มีค่าใช้จ่าย หรือ โทร. 098-989-5083