Influencer คืออะไร?
ก่อนจะไปเจาะลึก Influencer Marketing เราควรจะรู้จัก Influencer กันก่อน!
Influencer คือ บุคคลที่สร้างคอนเทนต์ได้น่าสนใจจนมีผู้ติดตามอยู่จำนวนหนึ่ง และมีอิทธิพลต่อความคิด การตัดสินใจ หรือพฤติกรรมของผู้อื่นบนโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น Instagram, TikTok, Facebook, YouTube หรือ Twitter เป็นต้น
Influencer หรือที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่าอินฟลูนั้น อาจจะเป็น Youtuber, Tiktoker, Blogger หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ ที่มีฐานแฟนคลับเหนียวแน่นก็ได้ อินฟลูเหล่านี้สร้างความสัมพันธ์กับผู้ติดตามผ่านการนำเสนอเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ ให้ความบันเทิง หรือให้ข้อมูลที่น่าสนใจ ทำให้ผู้ติดตามรู้สึกใกล้ชิดและไว้วางใจในสิ่งที่พวกเขาพูดหรือแนะนำ นั่นหมายความว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นดาราหรือเซเลบ เพียงแค่มีฐานผู้ติดตามที่ไว้ใจ มีคอนเทนต์คุณภาพ รวมทั้งความสามารถในการโน้มน้าวใจได้ ก็ถือว่าเป็น Influencer เช่นกัน
Influencer Marketing คืออะไร?
Influencer Marketing คือ การตลาดที่ใช้ Influencer หรือผู้มีอิทธิพลบนโซเชียลมีเดียเพื่อสื่อสารแบรนด์ สินค้า หรือบริการให้กับกลุ่มเป้าหมาย ผ่านความสัมพันธ์ ความน่าเชื่อถือ และความชอบของผู้ติดตามต่ออินฟลูนั้น ๆ หรืออธิบายง่าย ๆ ก็คือ แทนที่เราจะโฆษณาเอง เราให้คนที่คนอื่นเชื่อถือมาช่วยพูดถึงสินค้าของเราแทน ซึ่งต่างจากโฆษณาทั่วไปที่อาจถูกมองว่านี่คือการขายของ แต่การตลาดผ่านอินฟลูเอนเซอร์จะมีความเป็นธรรมชาติและน่าเชื่อถือ ทำให้คนดูรู้สึกว่าอยากลองมากกว่ารู้สึกโดนขายของ

Influencer มีประเภทอะไรบ้าง?
1. Nano Influencer
Influencer ประเภทนี้มีผู้ติดตามน้อยที่สุด แต่กลับมีจำนวน Influencer ประเภทอยู่มากที่สุด มีจำนวนผู้ติดตามอยู่ที่ 1,000 – 10,000 คน โดย Nano influencer คือ คนทั่วไปที่มีอิทธิพลในกลุ่มเฉพาะ เจาะกลุ่มเป้าหมายแคบมาก ๆ มีความน่าเชื่อถือสูง ด้วยคอนเทนต์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ขายของจ๋า ผู้คนมักจะรู้จักที่คนนี้จริง ๆ และค่าใช้จ่ายไม่สูง จึงเหมาะกับแบรนด์ที่เริ่มทำ Influencer Marketing ใหม่ ๆ แบรนด์ท้องถิ่น สินค้า niche หรือธุรกิจที่อยากเจาะกลุ่มเล็ก และต้องการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า
2. Micro Influencer
Influencer ประเภทนี้มีผู้ติดตามอยู่ที่ 10,000 – 50,000 คน เข้าถึงผู้คนได้มากกว่า Nano influencer แต่ยังคงข้อดีที่คล้ายเดิม คือ มีอิทธิพลเฉพาะทาง มีแนวทางชัดเจน สื่อสารได้มีประสิทธิภาพ รวมถึงการมีตัวตนที่ยังไม่ชัดเจนมากนัก จึงปรับให้เข้ากับแบรนด์ง่าย จึงเหมาะกับแบรนด์ที่อยากได้ยอด Engage สูงในกลุ่มเฉพาะ
3. Mid-Tier Influencer
Influencer ประเภทนี้มีผู้ติดตามอยู่ในช่วงกลาง ๆ อยู่ที่ 50,000 – 100,000 คน โดย Influencer ประเภทนี้เป็นที่ต้องการมากในตลาด เพราะคอนเทนต์ดูโปร มีสไตล์เฉพาะตัว แต่ให้ความรู้สึกถึงการเป็นคนแนะนำจริง ๆ มี Reach และ Engagement ดี เห็นผลไว และหากมีการวางแผนมาดี จะสามารถต่อรองได้ง่ายกว่าประเภท Macro และ Mega รวมถึงยังให้ผลลัพธ์ที่คุ้มค่าเกินราคา จึงเหมาะกับแบรนด์ที่อยากปั้น Awareness พร้อมยอดขาย
4. Macro Influencer
Influencer ประเภทนี้มีผู้ติดตามจำนวนมาก อยู่ที่ 100,000 – 1,000,000 คน มีชื่อเสียงมากในวงกว้างในระดับหนึ่ง ทำให้มีอิทธิพลในการสร้างการรับรู้แบรนด์ได้ดี และมักจะมีอัตราการมีส่วนร่วมที่สูงกว่า Mega Influencer จึงเหมาะกับแคมเปญที่ต้องการขยายการรับรู้ในวงกว้าง ต้องการ coverage สูง หรือสร้าง Brand Awareness ระดับประเทศ
5. Mega Influencer
Influencer ประเภทนี้มีผู้ติดตามมากกว่า 1,000,000 คนขึ้นไป เป็นดารา นักร้อง เซเลบ หรือคนดังระดับประเทศ แน่นอนว่าอินฟลูประเภทนี้ จะช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ได้อย่างรวดเร็ว และเข้าถึงคนได้จำนวนมาก ทำให้แบรนด์ดูมีระดับ น่าเชื่อถือ และผู้คนจะจดจำแคมเปญได้ง่าย เพราะเห็นได้จากทุกที่ ซึ่งเหมาะกับแคมเปญใหญ่ที่ต้องการ Impact แต่มีข้อเสียคือค่าใช้จ่ายสูง จาจไม่ตรงกลุ่มเป้าหมาย และอาจมี Engagement ต่ำกว่า Influencer ประเภทอื่น ๆ

Influencer Marketing สร้างความได้เปรียบให้แบรนด์อย่างไร?
- รูปแบบคอนเทนต์หลากหลาย Influencer สร้างคอนเทนต์ที่ดึงดูดและเข้าถึงง่ายได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นภาพถ่าย วิดีโอสั้น รีวิว บทความ หรือแม้แต่การไลฟ์สด ช่วยให้แบรนด์มีคอนเทนต์ที่หลากหลายและสดใหม่ ดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
- สร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ ผู้คนมักจะเชื่อมั่นในคำแนะนำและความเห็นของ หาก Influencer ที่พวกเขาติดตามพูดถึงหรือรีวิวสินค้าในเชิงบวก จะทำให้ผู้บริโภครู้สึกไว้วางใจและกล้าที่จะทดลองใช้มากขึ้น
- เจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด เข้าถึงลูกค้าที่มี Potential จากฐานผู้ติดตามของ Influencer ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์ ประหยัดงบได้มากขึ้น
- เพิ่มยอดขายได้แบบไม่ Hard Sell เกินไป การนำเสนอในรูปแบบการรีวิว ใช้งานจริง หรือผ่านคอนเทนต์ที่น่าสนใจ ทำให้ผู้บริโภคไม่รู้สึกถูกยัดเยียดขายเกินไป แถมยังช่วยกระตุ้นให้ตัดสินใจซื้อง่ายขึ้นอีกด้วย
- สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า Influencer เปรียบเสมือนสะพานเชื่อมระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีผ่าน Influencer อย่างต่อเนื่อง จะช่วยสร้างความภักดีและความผูกพันกับผู้ติดตามของเหล่าอินฟลูเอนเซอร์ ให้กลายมาเป็นลูกค้าประจำของแบรนด์ในระยะยาวได้

เลือก Influencer ยังไงให้ตรงใจ ไม่เปลืองงบ
การเลือก Influencer ก็เหมือนการหาเพื่อนร่วมทางที่จะนำพาแบรนด์ไปสู่เป้าหมาย การเลือก Influencer จึงไม่ใช่แค่เลือกคนที่มียอดฟอลเยอะ แต่ต้องใช่กับแบรนด์ด้วย หากเลือกคนที่ไม่เข้ากัน นอกจากจะไม่เห็นผลลัพธ์แล้ว ยังเสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลาอีกด้วย มาดูเคล็ดลับการเลือก Influencer ที่ใช่ให้กับแบรนด์ของคุณกัน!
1. เช็กกลุ่มเป้าหมายให้ตรงกัน
เปรียบเทียบกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์คุณกับผู้ติดตามของ Influencer อย่างละเอียด หากคุณขายสกินแคร์สำหรับวัยรุ่น การเลือกบิวตี้บล็อกเกอร์ที่เน้นความ Luxury ก็อาจจะไม่ค่อยเวิร์กสักเท่าไหร่ ดังนั้น การวิเคราะห์ข้อมูลผู้ติดตามของ Influencer จะช่วยให้มั่นใจได้ว่ากำลังสื่อสารกับคนที่ใช่
2. Engagement สำคัญกว่ายอดฟอล
อย่าหลงกลที่จำนวนผู้ติดตามเพียงอย่างเดียว ให้ดูที่ Engagement Rate หรืออัตราการมีส่วนร่วมของผู้ติดตามกับคอนเทนต์ของ Influencer ด้วย เช่น คนที่มีผู้ติดตามเพียง หลักหมื่น แต่มีคอมเมนต์หลายร้อย มักจะมีอิทธิพลมากกว่าคนที่มียอดฟอลหลักแสน แต่มีแค่ยอดไลก์เฉย ๆ
3. ดูสไตล์การเล่าต้องเข้ากับแบรนด์
ดูว่าแนวการเล่าเรื่องหรือโทนการสื่อสารของ Influencer นั้น ๆ ว่าสอดคล้องกับภาพลักษณ์ของแบรนด์หรือไม่ หากแบรนด์เน้นความอบอุ่น การเลือก Influencer สายแซ่บที่รีวิวแบบตรงไปตรงมา อาจทำให้ดูไม่เข้ากันกับภาพลักษณ์ของแบรนด์
4. เลือกระดับ Influencer ให้เหมาะกับงบ
ทำความเข้าใจประเภทและระดับของ Influencer ให้สอดคล้องกับงบและเป้าหมายทางการตลาดของแบรนด์ เช่น
- Nano (1K–10K) เหมาะกับแบรนด์เล็กที่อยากปั้นรีวิวเยอะ ๆ ในราคาประหยัด
- Micro (10K–50K) ช่วยสร้าง Brand Awarenes และความน่าเชื่อถือในเฉพาะกลุ่มได้ดี
- Mid-tier (50K–500K) เน้นกระตุ้นยอดขาย และเพิ่มจำนวน follower
- Macro (500K–1M) สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูใหญ่และเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
- Celebrity (1M+) สร้าง Brand Awarenes ในระดับประเทศอย่างรวดเร็ว
5. ขอ Portfolio หรือรีพอร์ตแคมเปญก่อนหน้า
Influencer ที่มีความเป็นมืออาชีพมักจะมี Portfolio หรือรายงานผลลัพธ์ของแคมเปญที่เคยทำ เพื่อให้เห็นภาพรวมและสถิติการทำงานจริง ช่วยให้สามารถประเมินศักยภาพและความเหมาะสมของ Influencer ได้ดียิ่งขึ้น
Influencer Marketing กลยุทธ์ใหม่ที่แบรนด์ควรมีไว้ติดตัว
Influencer Marketing กลายเป็นกลยุทธ์ของการตลาดยุคใหม่ ที่ไม่ว่าจะแบรนด์เล็กหรือแบรนด์ใหญ่ก็หันมาเลือกใช้กันเป็นแถว แต่การจะใช้ Influencer ให้เวิร์ก ต้องเริ่มจากการวางกลยุทธ์ให้ถูกทาง รู้จักกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์อย่างชัดเจน ตั้งเป้าหมายแคมเปญให้แม่น เลือก Influencer ที่เหมาะสม
หากแบรนด์ของคุณไม่มีทีมที่โฟกัสกับ Influencer Marketing โดยตรง Blupaper มีทีมผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษาและช่วยวางกลยุทธ์ เลือก Influencer ที่ใช่ ให้คุ้มค่ายิ่งกว่าเดิม เปลี่ยนยอดวิวเป็นยอดขายไปกับ Blupaper ได้เลยวันนี้! ติดต่อเรา หรือ โทร. 098-989-5083